5 วิธีดูแลอารมณ์และจิตใจในช่วงกักตัว และ Work From Home

สถานการณ์โควิดช่วงนี้ทำให้หลายคนคาดการณ์ได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่อย่างน้อยข่าวดีคือวัคซีนจะเริ่มเข้ามาจัดสรรให้ประชาชนในประเทศมากขึ้นตามลำดับ ในระหว่างที่คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่ต้องกักตัว เพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก บทความนี้มีเกร็ดเล็กๆ เทคนิคน้อย ๆ 5 ข้อมาฝาก เผื่อคุณได้จะวิธีดูแลอารมณ์และจิตใจในช่วงกักตัว

สถานการณ์โควิดช่วงนี้ทำให้หลายคนคาดการณ์ได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่อย่างน้อยข่าวดีคือวัคซีนจะเริ่มเข้ามาจัดสรรให้ประชาชนในประเทศมากขึ้นตามลำดับ ในระหว่างที่คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่ต้องกักตัว เพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก บทความนี้มีเกร็ดเล็กๆ เทคนิคน้อย ๆ 5 ข้อมาฝาก เผื่อคุณได้จะวิธีดูแลอารมณ์และจิตใจในช่วงกักตัว

1. มีงานอดิเรกทำช่วงที่ว่างเว้นจากงาน กิจกรรมที่ทำเป็นชิ้นเป็นอันนอกเหนือจากแค่นอนดูหนังหรือฟังเพลง เพื่อหาจุดสนใจและโฟกัสให้คุณเพลิดเพลินกับภาระที่ต้องทำ แถมทำแล้วยังสนุก อีกทั้งยังอาจได้ผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน

2. จัดสรรเวลาวิดีโอคอลหรือโทรหาที่บ้าน เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ยากสำหรับสายแฟมิลี่แมนแฟมิลี่วูแมน ที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว แต่เมื่อช่วงที่กักตัวยังไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ การสื่อสารผ่านช่องทางอื่น ๆ จึงมีความหมายและช่วยคุณได้ใกล้ชิดกับครอบครัวได้อย่างมาก

3. ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ คิดซะว่าถือโอกาสได้มีเวลาดูแลสุขภาพกายของคุณเอง แถมการออกกำลังกายยังช่วยหลังสารแห่งความสุข ให้คุณผ่อนคลายและสมองปลอดโปร่งได้มากอีกด้วย ลองเลือกการออกกำลังกายหรือกีฬาที่คุณถนัด หรือลองชนิดใหม่ ๆ ที่สามารถเล่นได้แม้ในสถานที่จำกัด ไม่แน่ว่าคุณอาจจะค้นพบความสามารถในกีฬาที่คุณไม่เคยคิดจะลองมาก่อนก็ได้

4. ฉวยโอกาสอันดีนี้พัฒนาตัวเองในรูปแบบที่คุณชอบ บางทีคุณอาจจะเคยเล็งลงเรียนคอร์สเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์มานานแต่ยังไม่มีเวลาว่าง หรืออ่านหนังสือหนึ่งกองของคุณมานาน เวลานี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจัดสรรเวลาให้ตัวคุณได้เพิ่มขีดความรู้ความสามารถขึ้นอีกซักนิด เลือกเรื่องไหนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องสนุกและชอบในเรื่องนั้นด้วย ถึงจะเรียกว่าเป็นการเพิ่มความสุขและความสามารถในระหว่างกักตัว

5. เสพข่าวเครียดที่ไม่จำเป็นรู้ลงบ้าง บางครั้งคนเราอาจเผลอลืมตัวติดตามอ่านข่าวดราม่าที่กำลังเป็นกระแส เพลินจนขนาดตามอ่านเกือบทุกคอมเม้น และส่วนมากข่าวดราม่าก็มักจะตามมาด้วยคอมเม้นท์ที่มีดราม่าเช่นกัน แต่สิ่งเหล่านั้นอาจยิ่งเพิ่มความเครียดให้คุณไม่รู้ตัว ทั้งที่คุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเหล่านั้นก็ได้ ดังนั้น เพื่อปกป้องอารมณ์และจิตใจของตัวคุณเอง เลือกเสพข่าวและสื่อ เลือกที่ช่วยจรรโลงใจและให้ความรู้ต่อการพัฒนาตัวเองของคุณดีกว่า

หวังว่า 5 ข้อนี้จะช่วยให้คุณมีวิธีในการดูแลสุขภาพใจของตัวเอง สุดท้ายคือมีความหวังว่าในอนาคตทุกอย่างต้องดีขึ้น ความหวังทำให้คนเรามีพลังใจ ที่จะก้าวต่อไปท่ามกลางความไม่แน่ไม่นอนของสถานการณ์ ณ ขณะนี้ แล้วอย่าลืมให้ความหวังและพลังบวกกับคนรอบข้างด้วย ไม่ได้มีแค่เราที่เครียด แต่คนรอบตัวก็เครียดไม่น้อยไปกว่าเรา ให้อารมณ์ที่ดีและพลังบวกให้แก่กัน ก็จะทำให้บรรยากาศน่าอยู่และสงบสุขขึ้นแน่นอนค่ะ

อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรมีมีบริการดี ๆ น่ารัก ๆ ในการอยู่เคียงข้างพนักงานทุกท่านที่รู้สึกอยากคุยกับใครซักคน อยากระบายความอึดอัดกับใครซักคน อยากมีคนที่รับฟังอย่างเข้าใจโดยไม่ตัดสินใจเรา 

โดยคุณสามารถนัดหมายเพื่อคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลอารมณ์และจิตใจของคุณ ผ่านช่องทางโทรศัพท์ (หากคุณต้องการให้ได้ยินแต่เสียง) หรือวิดีโอคอล (หากคุณต้องการจะได้เห็นหน้าผู้เชี่ยวชาญด้วย) ซึ่งคุณสามารถเข้านัดหมายพูดคุยได้ทุกวัน ระหว่าง 9.00 – 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ  

นัดหมายหรือดูรายละเอียดได้ที่ https://istrong.center/booking/ แล้ว Login ด้วย username และ password ของคุณได้เลย เท่านี้คุณได้มีใครซักคนคอยรับฟังคุณได้ตลอดแล้ว


ผู้เขียน

พิชาวีร์ เมฆขยาย

ผู้บริหาร iSTRONG Mental Health ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาองค์กร (M.Sc./B.Sc. Organizational & Industrial Psychology) ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาศักยภาพและ Mindset และ Positive Psychology Certified