5 เทคนิคสร้างพลังบวกในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือ The Age of Disruption คงเป็นที่คุ้นหูของใครหลาย ๆ คนกันอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่มากับยุคนี้คือ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาพลิกโฉมธุรกิจ ที่ทั้งมีประโยชน์และก็แอบน่ากลัวในเวลาเดียวกัน เช่น ChatGPT เป็นต้น ซึ่งคนทำงานอย่างเรา ๆ ก็อาจมีความรู้สึกหวั่นใจบ้างว่า AI จะมาช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้น หรือทำให้เราตกงานกันแน่นะ พอหวั่นใจไปเรื่อย ๆ บวกกับการเจอกับปัญหาอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ก็อาจทำให้พลังลบเพิ่มขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างพลังบวกให้สามารถรับมือกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เรามี 5 เทคนิคนี้มาฝากคุณค่ะ

1. ทำความเข้าใจ

สิ่งแรกที่ควรทำคือ ทำความเข้าใจก่อนว่า อะไรที่ควบคุมได้ และอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์และทุกยุคทุกสมัย ซึ่งบ่อเกิดของความกังวล ความกลัว หรือความคิดลบต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักมาจากการที่เราพยายามควบคุมสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ในยุคนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงบ่อยและรวดเร็วไปหมด คุณอาจกดดันตัวเองให้ตามโลกให้ทัน ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณทำได้และทำได้เร็ว ก็จะเป็นผลดีต่อตัวคุณ แต่หากคุณต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับบางสิ่งบางอย่าง ก็ไม่เป็นไรเลย เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่อย ๆ ใช้เวลาไป ทำเท่าที่คุณทำไหวและทำได้ แค่คุณมีเป้าหมายว่าอยากเดินไปข้างหน้า ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้วละ

2. พัฒนา Growth Mindset

Growth mindset หรือ กรอบความคิดแบบเติบโต คือการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เปิดใจยอมรับความท้าทายต่าง ๆ ที่เข้ามา และยอมทุ่มเทเวลาและความพยายามเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากในยุคนี้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฝน แต่คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการฝึกถามตัวเองในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะในวันที่มีปัญหาและความท้าทายเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตส่วนตัวหรือในการทำงานว่า คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งเหล่านั้น หากคำตอบของคุณคือ ได้บทเรียนสำคัญ ได้ความรู้ใหม่ ๆ ถือว่าคุณมาถูกทางแล้ว และพอคุณสามารถปรับมุมมองได้แล้ว การกระทำก็จะตามมาเอง ซึ่งการกระทำในที่นี้คือการพัฒนาตัวเอง

3. หาจุดแข็งของตัวเอง

การพัฒนาตัวเองนั้นขึ้นอยู่กับบริบทชีวิตและการทำงานของคุณว่า ทักษะแบบไหนที่จำเป็นสำหรับคุณ ซึ่งบางทีคุณอาจต้องพัฒนาทักษะที่คุณไม่ถนัดเพื่อตอบโจทย์เนื้องานที่ท้าทายขึ้น หรือพัฒนาทักษะที่คุณถนัดอยู่แล้วเพื่อต่อยอดในการทำงานโดยรวม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณสามารถระบุสิ่งที่คุณถนัดหรือจุดแข็งของตัวเองได้ คุณจะประหยัดเวลาในการทำงานได้เยอะเลยทีเดียว เนื่องจากคุณมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้คุณทำงานได้ดีขึ้นและรู้สึกมั่นใจในการทำงานของคุณมากขึ้นอีกด้วย คุณอาจลองลิสต์จุดแข็งของตัวเองออกมาดู เช่น คุณเป็นคนมีระบบระเบียบ คุณขยัน คุณมีความรับผิดชอบ หรืออาจลองถามคนที่รู้จักคุณดีดูก็ได้นะ

4. หมั่นฝึกฝนเรียนรู้

การที่จะตามโลกให้ทันได้นั้น เราต้องใฝ่รู้อยู่เสมอ โดยการพัฒนาทักษะเดิม (upskill) และเพิ่มเติมทักษะใหม่ (reskill) ทั้งพัฒนาจุดแข็งของตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ ควบคู่ไปกับการหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่าง ๆ ให้กลายเป็นคนที่รอบรู้มากขึ้น ซึ่งคุณสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ลองอาสาทำงานที่อยู่นอก comfort zone ของคุณ เรียนคอร์สออนไลน์ เข้าร่วมชมรมที่ช่วยให้คุณฝึกฝนทักษะบางอย่าง เช่น ภาษาอังกฤษ การพูดในที่สาธารณะ เป็นต้น และก็อย่าลืมจัดสรรเวลาด้วยนะ คุณจะได้มีเวลาพัฒนาทักษะเหล่านี้จริง ๆ ซึ่งอาจเป็นช่วงพัก หลังเลิกงาน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ก็ได้

5. พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ข้อดีของการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่น คือการได้รับความรู้ที่รวดเร็วที่มาจากประสบการณ์ตรงของอีกฝ่าย ซึ่งคุณอาจได้รับคำแนะนำที่ดี แนวทางปฏิบัติที่ได้ผลจริง หรือแม้กระทั่งแรงบันดาลใจที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้ง่ายขึ้นก็ได้นะ นอกจากนี้ การได้พูดคุยกับคนอื่นก็เป็นการคลายเครียดที่ดีเหมือนกัน เพราะคุณได้แชร์ความคิด ความรู้สึกออกไป (แต่ก็ต้องเลือกคนที่คุยด้วยเหมือนกันนะ เพราะบางคนอาจทำให้คุณเครียดกว่าเดิม) ยิ่งถ้าคุณเจอคนที่เจอปัญหาเดียวกันหรือคล้ายกันกับคุณ ก็อาจทำให้คุณรู้สึกไม่โดดเดี่ยว เพราะเขาเข้าใจถึงปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่

ลองไปปรับใช้ 5 เทคนิคนี้ดูกันนะคะ อาจมีหลายสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ในยุคแห่งการเปล่ี่ยนแปลงนี้ แต่สิ่งที่เราควบคุมได้คือตัวเราค่ะ เริ่มต้นจากการปรับมุมมองก่อน แล้วการกระทำก็จะตามมาเอง เช่นเดียวกับยุคที่มีการเปลี่ยนแปลง ตัวเราเองก็สามารถเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เช่นกัน เราแค่ต้องหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มความรอบรู้ให้ตัวเอง แค่นี้เราก็จะตามโลกทันแล้วค่ะ

—————

#iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร

• บริการปรึกษา #จิตแพทย์ และ #นักจิตวิทยา 

• คอร์สฝึกอบรมการเป็นนักให้คำปรึกษามืออาชีพ

• Employee Assistance Program สำหรับองค์กร

Inbox ที่เพจ หรือ โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong